ปี 2566
-
จัดตั้งบริษัท Wave BCG PTE ในประเทศสิงคโปร์ โดยให้ บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อเป็นคลังสินค้า และรองรับการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค
-
จำหน่ายหุ้นในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด (“เมกะวัตต์”) จำนวนทั้งสิ้น 2,850,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ให้แก่ บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ในราคาหุ้นละ 115 บาท มูลค่ารวม 327,750,000
-
การเปลี่ยนชื่อและตราประทับบริษัท จากเดิมชื่อ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 และการแก้ไขเพิ่มเติม ข้อบังคับ หนังสือบริคณห์สนธิ
-
ได้รับบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นพันธมิตรเพื่อรองรับการขยายธุรกิจและพัฒนาโครงการ ในสัดส่วน 26 เปอร์เซ็นต์ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว โดยจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญในบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (“BCG”) จำนวนทั้งสิ้น 1,300,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 62.40 บาท มูลค่ารวม 81,120,000 บาท ทำให้บริษัทถือหุ้นในบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในสัดส่วน 74 เปอร์เซ็นต์
-
บริษัท เวฟ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป จำกัด สามารถขยายธุรกิจเฟรนไซส์ Wall Street English ใหม่ 2 สาขา ที่จังหวัดชลบุรี และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาโมเดลสถาบันสอนภาษาจีน รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ของสถาบันความชำนาญเฉพาะด้าน
-
บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด อยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาโครงการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง AWD Project, โครงการปลูกป่ารวมยาง และ โครงการ REC Token Project
- ในปัจจุบันโครงการ AWD มีองค์กรที่สนใจเข้าร่วมสนับสนุนนโครงการ และ ชาวนาสนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว
- โครงการ REC Token Project อยู่ในระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาคุณสมบัติของ Token เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน
-
บริษัท เวฟ เวลบีอิ้ง จำกัด อยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้เป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่มีเพิ่มขึ้น
ปี 2565
-
28 กุมภาพันธ์ 2565-จำหน่ายไปซึ่งหุ้นในบริษัท เจฟเฟอร์ เรสเตอรองต์ จำกัดโดยบริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 7/2565 มีมติอนุมัติให้บริษัท เวฟ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด จำหน่ายไปซึ่งหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯเป็นจำนวนทั้งสิ้น 10,098,000 หุ้น (หุ้นสามัญ 10,049,000 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิ์49,000 หุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นจำนวนร้อยละ 100 ของหุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิที่จดทะเบียนและชำระเต็มมูลค่าแล้ว ให้กับกลุ่มนางสุดารัตน์ ศุภพงษ์เทวาสกุล (“ผู้ซื้อ ทั้งนี้ภายหลังจากการจำหน่ายหุ้นดังกล่าวของ Jeffer จะส่งผลให้ WAVE Food ไม่มีการถือหุ้นใน Jeffer อีกต่อไป และJeffer จะสิ้นสุดการเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ
-
11 เมษายน 2565-มติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(E-AGM) มีมติที่สำคัญสรุป ดังนี้
-
อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 471,083,245 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,415,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 943,916,755 บาทโดยการตัดหุ้นที่ไม่ได้ออกจำหน่าย และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 4. ของ หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯเพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
-
อนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 46,795,718 บาท และทุนสำรองส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 353,617,102 บาทเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ
-
อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 471,958,377.50 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 943,916,755 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 471,958,377.50 บาท และลดทุนชำระแล้วของบริษัทฯโดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ ของหุ้นของบริษัทฯจากเดิมมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทโดยมี จำนวนหุ้น คงเดิมเท่ากับ 943,916,755 หุ้น
-
อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในจำนวนไม่เกิน 235,578,510 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 471,958,377.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 707,536,887.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวนไม่เกิน 471,157,020 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 4.ของหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
-
อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ เป็นจำนวนไม่ เกิน 471,157,020 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 0.50 บาทเพื่อรองรับการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ประชาชนทั่วไป (Public Offering) และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate)
-
27 มิ ถุนายน 2565 - การลดทุนจดทะเบียน และทุนชำ ระแล้วของ WAVE ในนาม บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WAVE) มูลค่าที่ตราไว้เดิม (บาท) : 1.00 และมูลค่าที่ตราไว้ใหม่ (บาท) : 0.50 และบริษัทได้มีการจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วเสร็จ วันที่มีผล 30 มิ .ย. 2565
-
5 สิงหาคม 2565 - ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2565 ที่จัดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 2565 มีมติอนุมัติให้จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันอังคารที่ 13 กันยายน 2565
-
การเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) การออก และเสนอขายใบสำคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ (WAVE-W3) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิฯWAVE-W3”) จำนวนไม่เกิน 2,617,539,003 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯที่ได้จองซื้อ และได้ชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯตามสัดส่วน การถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราส่วน 3 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ต่อ 1 หน่วย ใบสำคัญแสดงสิทธิโดยไม่คิดมูลค่า (หน่วยละ 0 บาท) โดยใบสำคัญแสดงสิทธิฯWAVE-W3 มี อัตราการใช้สิทธิตาม 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯWAVE-W3 ต่อ 1 หุ้นสามัญ และราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ เท่ากับ 0.15 บาทต่อหุ้น ดังรายละเอียดปรากฏตามสารสนเทศเกี่ยวกับการออก และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)
-
อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 235,578,510 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 707,536,887.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 471,958,377.50 บาทโดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่ายจำนวน 471,157,020 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
-
อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯในจำนวนไม่เกิน 5,934,068,140.50 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 471,958,377.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 6,406,026,518 บาทโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน ไม่เกิน 11,868,136,281 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
-
อนุมัติการออก และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 3 (WAVE-W3) ในจำนวนไม่เกิน 2,617,539,003 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น
-
อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจำนวนไม่เกิน 11,868,136,281 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเพื่อ (1) รองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) (2) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 3 (WAVE-W3) และ(3) รองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 2 (WAVE-W2)
-
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2565 มีมติแต่งตั้ง นายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ เป็นกรรมการใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป และมีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของ นายอภิวัฒน์ เงินหมื่น
-
13 กันยายน 2565 - มติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) มีมติที่สำคัญสรุป ดังต่อไปนี้
-
อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 235,578,510 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 707,536,887.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 471,958,377.50 บาทโดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่ายจำนวน 471,157,020 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
-
อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯในจำนวนไม่เกิน 5,934,068,140.50 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 471,958,377.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 6,406,026,518 บาทโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน ไม่เกิน 11,868,136,281 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
-
อนุมัติการออก และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 3 (WAVE-W3) ในจำนวนไม่เกิน 2,617,539,003 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น
-
อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจำนวนไม่เกิน 11,868,136,281 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเพื่อ (1) รองรับการจัสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) (2) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 3 (WAVE-W3) และ(3) รองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯครั้งที่ 2 (WAVE-W2)
-
16 กันยายน 2565 - นายสมศักดิ์ พยับเดชาชัย ลาออกจากกรรมการ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16กันยายน 2565 เป็นต้นไป
-
26 กันยายน 2565 - หม่อมหลวงนลินี หัสดินทร ลาออกจากกรรมการ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26กันยายน 2565 เป็นต้นไป
-
3 ตุลาคม 2565 - ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่5/2565 มีมติแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบแทนกรรมการตรวจสอบเดิมที่ลาออกของบริษัทโดยได้มีมติแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบคนใหม่ดังนี้ นายพิสิทธิ์ จูศิริวัฒน์ แทนนายสมศักดิ์ พยับเดชาชัย และ ดร.วีรวิชช์ ชาติวิวัฒน์พรชัย แทนหม่อมหลวงนลินี หัสดินทร โดยดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
-
17 ตุลาคม 2565 - นายชัยประนิน วิสุทธิผล และนายฟิลิป โอลิเวอร์ เพียซ กรรมการอิสระลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
-
20 ตุลาคม 2565 - ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 6/2565 มีมติแต่งตั้งกรรมการทดแทนกรรมการที่ลาออกดังนี้ นางพัฒน์นรี ฐิติอริยกุล กรรมการอิสระ แทน นายชัยประนิน วิสุทธิผล และนายเจมส์ แอนดริว มอร์ กรรมการแทน นายฟิลิปโอลิเวอร์ เพียซโดยดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
-
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 มีมติที่สำ คัญ ดังนี้ 1) แต่งตั้ง ดร. แคทลีน มาลีนนท์เป็นประธานคณะกรรมการบริษัทแทนนายแมทธิว กิจโอธาน 2) แต่งตั้งนายเจมส์แอนดริว มอร์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 3) แจ้งการลาออกของ นาย ประเสริฐ ภัทรดิลก จากกรรมการอิสระ และประธานตรวจสอบ 4) แจ้งการลาออกของ นางอังคณีย์ ฤกษ์ศิริสุข จากกรรมการบริษัท มีผลตั้งแต่ 1 พ.ย. 2565 เป็นต้นไป
-
มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชุดใหม่แทนคณะเดิมโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2565 (รายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบชุดใหม่ปรากฏอยู่ในรายงานหน้า 87-88)
-
บริษัทได้ดำ เนินการแจ้งย้ายที่ตั้งสำ นักงานใหญ่ จากที่ตั้งเดิม 3199 อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ ชั้น 15 ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ 02-665-6705 โทรสาร 02-665-6750 ย้ายไปที่ตั้งใหม่ เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิเขตห้วยขวาง กรุงเทพ 10310 โทรศัพท์ 02- 716-6900 โทรสาร -ไม่มี- ผ่านหน้าเว็บไซต์การแจ้งข่าวของตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2565
-
บริษัทได้ดำ เนินการแจ้งย้ายที่ตั้งสำ นักงานใหญ่อีกครั้ง ผ่านหน้าเว็บไซต์การแจ้งข่าวของตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2565 เนื่องจากมีการทบทวนเรื่องความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะรองรับการทำ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากที่ตั้งเดิม เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิเขตห้วยขวาง กรุงเทพ 10310 โทรศัพท์ 02- 716-6900 โทรสาร -ไม่มี- เปลี่ยนเป็น เลขที่ 2445/19-20, 2445/22 อาคารธารารมณ์ บิสซิเนส ทาวเวอร์ชั้น 14 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ10310 โทรศัพท์ 02-665-6705 โทรสาร -ไม่มี- โดยบริษัทฯจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน ไตรมาส 1 ปี 2566
ปี 2564
-
การลดทุนจดทะเบียนของบริษัทโดยการตัดหุ้นที่ไม่ได้ออกจำหน่าย ในเดือนมิถุนายน 2564 บริษัทได้มีการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 576,925,916 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,520,842,672 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 943,916,756 บาทโดยการตัดหุ้นที่ไม่ได้ออกจำหน่าย ที่รองรับการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) และการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (WAVE-W2) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ”)
-
การเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในเดือนมิถุนายน 2564 บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในจำนวน 471,083,244 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 943,916,756 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 1,415,000,000 บาท
ปี 2563
การลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด
-
การลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 24 มิ ถุนายน 2563 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด (“เมกะวัตต์”) ซึ่งประกอบธุรกิจด้านพลังงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทหรือคิดเป็น 28.36 % ของทุนจดทะเบียนของเมกะวัตต์ จำนวน 1,763 ล้านบาท
-
ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 บริษัทฯได้ชำระค่าหุ้นของเมกะวัตต์รวมทั้งสิ้น 2.85 ล้านหุ้น ที่มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาทรวมเป็นจำนวนเงิน 285 ล้านบาท คิดเป็น 29.20% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้วของเมกะวัตต์จำนวน 976 ล้านบาท
-
การเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น(Right Offering):ในเดือนตุลาคม 2563 บริษัทได้มีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวนไม่เกิน 701,927,387 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาทเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1.5 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.70 บาท และจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (WAVE-W2) (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ”) จำนวนไม่เกิน 350,963,694 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่ได้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท (Right Offering) ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ หน่วยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย (หน่วยล่ะ 0 บาท)
ปี 2562
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 กลุ่มบริษัทได้มี การขยายสาขาของธุรกิจผ่านระบบระบบแฟรนไชส์ดังนี้ บริษัท เวฟ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ของบริษัท วอลล์ สตรีท อิงลิช (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์หลัก (Master Franchise) การเปิดสถาบันโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ “Wall Street English” และสามารถให้สิทธิดังกล่าวต่อนักลงทุน และผู้สนใจทั่วไปทั้งในประเทศไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ โดยได้มีการเปิดให้บริการโดยแฟรนไซส์นี้แล้วจำนวน 1 สาขา ในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น บริษัท เจฟเฟอร์ เรสเตอรองต์ จำกัด ได้มีการเปิดให้บริการโดยแฟรนไซส์นี้แล้ว จำนวน 1 สาขา ที่จังหวัดชุมพร
ปี 2561
-
การขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 บริษัทได้ ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 46.75 ล้านหุ้น ให้แก่ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด
-
การจำหน่ายหุ้นในบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 บริษัทได้เข้าลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อจำหน่ายไปซึ่งหุ้นไม่เกิน 86 ล้านหุ้น คิดเป็น 50% ของทุนชำระแล้วของบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) (Index) ให้กับกลุ่มครอบครัว กาญจนะโภคิน (กลุ่มผู้ซื้อ) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมใน Index
ปี 2560
การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรายการโทรทัศน์ ในเดือนธันวาคม 2560 บริษัทได้มี การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรายการโทรทัศน์โดยการขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ ในบริษัท เวฟ ทีวี จำกัด คิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้ว ให้แก่ บริษัท เวฟ พิคเจอร์ส จำกัด (“ผู้ซื้อ”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัทโดยบริษัทถือหุ้นคิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้ว
ปี 2559
-
การเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ในเดือนมีนาคม 2559 บริษัทได้มีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำ นวนไม่ เกิน 97.20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 3.50 บาท
-
การจำ หน่ายหุ้น TSE บางส่วน เมื่ อเดือนพฤศจิกายน 2559 บริษัทได้จำหน่ายหุ้น TSE จำนวน 181.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียนที่ออกจำหน่าย และชำระเต็มมูลค่าแล้วของ TSE และภายหลังจากการจำหน่ายหุ้นของ TSE ดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้บริษัทมีการถือหุ้นใน TSE คงเหลือ คิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียนที่ออกจำหน่าย และชำระเต็มมูลค่าแล้วของ TSE
-
การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจการศึกษา ในเดือนธันวาคม 2559 บริษัทได้มี การปรับโครงสร้างการถือหุ้นธุรกิจการศึกษาของบริษัทเพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจไปสู่ประชาคมอาเซียนในกลุ่ม CLMV โดยการขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ ใน EES คิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้ว ให้แก่บริษัท เวฟ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ซีวีดี ออแกไนเซอร์ จำกัด) (“ผู้ซื้อ”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทโดยบริษัทถือหุ้นคิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้ว)
ปี 2558
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทได้ขยายธุรกิจ Entertainment ในธุรกิจการให้บริการสร้างสรรค์ และบริหารงานด้านการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ “Index” โดยการเข้าซื้อหุ้น จำนวน 86 ล้านหุ้น คิดเป็น 50% ของทุนออกจำหน่าย และชำระเต็มมูลค่าแล้วของบริษัท อินเด็กซ์ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน)
ปี 2557
-
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2557 บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจ Lifestyle โดยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เอ็ฟฟิเชียนท์ อิงลิช เซอร์วิสเซส จำ กัด (EES) ในสถาบันสอนภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ “Wall Street English”
-
บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ของ TSE จำนวนหุ้น 22 ล้านหุ้น ที่ ราคา 3.90 บาทต่อหุ้นรวมเป็นเงิน 85.80 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนใน TSE 20% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วใน TSE
-
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2557 บริษัทได้ขยายธุรกิจ Lifestyle เพิ่มเติมในธุรกิจร้านอาหารสเต๊กและอาหารทะเลภายใต้ชื่อ “Jeffer Steak & Seafood” โดยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทเจฟเฟอร์ เรสเตอรองต์ จำกัด ผ่านบริษัท เวฟ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
ปี 2556
บริษัทได้ขยายธุรกิจด้านบันเทิงโดยการเป็นผู้ผลิต และจัดจำ หน่ายภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 นายประชามาลีนนท์ ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทโดยบริษัทได้แต่งตั้งนายแมทธิวกิจโอธาน ให้ดำรงตำแหน่งแทน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2556 บริษัทชำ ระค่าหุ้นเพิ่มทุนใน TSE เพิ่มอีก 104.7 ล้านบาทรวมเป็นเงินลงทุน 341.2 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทถือหุ้นครบ 25% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วใน TSE
ปี 2555
บริษัทได้ขยายธุรกิจด้านบันเทิงโดยการเป็นผู้ให้บริการจัดแสดงคอนเสิร์ต และกิจกรรมต่างๆ
ปี 2554
-
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2554 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนเพิ่มในบริษัท ไทย โซล่าร์เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (TSE) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อจำหน่ายให้ภาครัฐ และเอกชนจาก 10% เป็นไม่เกิน 35% ของทุนจดทะเบียน TSE
-
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TSE มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนใน TSE คิดเป็นสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียน TSE
-
บริษัทชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนใน TSE เพิ่ม 117.5 ล้านบาทรวมเป็น 149.5 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนใน TSE 10.9% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วใน TSE
ปี 2553
บริษัทได้ขยายธุรกิจด้านบันเทิงโดยการเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรายการโทรทัศน์
ปี 2550
บริษัทได้ยกเลิกส่วนงานธุรกิจจัดหา และจัดจำหน่ายภาพยนตร์พร้อมลิขสิทธิ์
ปี 2545
บริษัทได้หยุดดำเนินการผลิตตลับวีดีโอสินค้าหลัก